รีวิว Creed III (2023)
สนุก เดือด ร้อนแรง แผดเผาให้คนดุได้ตื่นเต้น และลุ้นไปกับการขึ้นสู่เวทีเพื่อก้าวถึงคำว่า แชมป์ อย่างไม่ท้อถอย ถึงแม้จะไม่เคยรับชมภาคก่อนหน้า แต่ก็สามารถเข้าใจในเนื้อหาที่สื่อออกมาได้ในทันที กับการดู Creed III (2023) ในภาคนี้ และไม่ได้มีเพียงแต่เรื่องราวบนสังเวียน แต่ยังเปลี่ยนผ่านอารมณ์มาเล่าเรื่องครอบครัวพ้องกันไปอีกด้วย
เรื่องราวชีวีติของ อโดนิส ครี้ด (รับบทโดย ไมเคิล บี. จอร์แดน) เขาได้ครองแชมป์ และเป็นเบอร์แรกของวงการมวย พร้อมไปด้วยความรุ่งเรืองในอาชีพการงาน และชีวิตครอบครัวของเอา กระทั่งเพื่อนสมัยเด็กและยังเป็นอดีตนักมวยฝีมือเยี่ยม อย่าง เดเมียน อันเดอร์สัน (รับบทโดย โจนาธาน เมเจอร์ส) กลับเข้ามาให้ชีวิตของเขาอีกครั้ง การเผชิญหน้ากับระหว่างเพื่อนเก่าในครั้งนี้ จึงเป็นมากกว่าการต่อสู้ครั้งไหน ๆ
เปิดฉากมาด้วยวัยเด็กของ 2 ตัวละครหลัก อย่าง อโดนิส และ เดเมียน มาผูกปมความสนิทไว้ตั้งแต่เริ่มต้น ก่อนเข้าสู่เนื้อเรื่องหลักในปัจจุบันแบบสบาย ๆ มีฉากน่ารักให้ได้พักหัวใจก่อนจะเข้าสู่ความเข้มข้น เมื่อเขาทั้งสองคนได้พบกันอีกครั้ง และเดเมียน กลับมาเพื่อเข้าสู่สังเวียนการชกมวย ทวงตำแหน่งแชมป์ที่เขาเฝ้ารอมาเป็นเวลานาน พร้อมไปกับปมในอดีตที่คืบคลานเข้ามาใกล้ตัวเขามากยิ่งขึ้น จึงทำให้บัลลังก์ในครั้งนี้ อโดนิส ต้องกลับลงมาทวงคืนศักดิ์ศรีของนักมวยอาชีพอีกครั้ง
นอกเหนือจากการกล่าวถึงการชกมวย เนื้อหายังสลับไปกับเรื่องราวของครอบครัวได้ดีพอสมควร ทั้งความรัก ความห่วงใย ของภรรยา อย่าง บิอังก้า (รับบทโดย เทสซ่า ทอมป์สัน) เธอนั้นก็พักจากการทำสิ่งที่ตัวเองรัก และทำอะไรที่ใกล้เคียงกัน เพื่อให้ตัวเองนั้นยังคงมีความสุขกับความชอบของตนเอง และลูกสาวของเขา โทนี่ 'ลิตเติ้ล ดุ๊ก' เบอร์ตัน (รับบทโดย วู้ด แฮร์ริส) เมื่อเธอนั้นมีเรื่องการใช้ความรุนแรงกับเพื่อนในโรงเรียนคนหูหนวก ทว่ากลับไม่มีบทสรุปของเนื้อหาว่าต้องการสื่อถึงการต่อต้านความรุนแรง หรือผลของการกระทำแต่อย่างใด และยังจุดประเด็นอีกพอประมาณที่มีเรื่องเกิดขึ้น แต่ดึงดันไปไม่จบทาง เสมือนพอเข้าสู่แกนการชกมวยของสองตัวละครหลัก เนื้อหาอื่น ๆ ก็ค่อนข้างเบาบางลงไป
Comments
Post a Comment