รีวิว The Good Nurse (2022)

บางครั้งเรื่องจริงก็กลายเป็นความเจ็บปวดที่แสนทรมาร The Good Nurse (2022) ภาพยนตร์อาชญากรรมดราม่าที่สร้างจากเรื่องจริงแค่บางส่วนของฆาตกรต่อเนื่องในคราบบุรุษพยาบาลเป็นหนังดราม่าแนวชีวิตที่ผสมความระทึกขวัญแบบเรียลๆ ได้เป็นอย่างดี ผ่านการแสดงของตัวเอกที่ทำให้เรื่องราวนี้ดูสมจริงมากขึ้นไปอีก กับชีวิตจริงของฆาตกรต่อเนื่องที่แฝงตัวอยู่ในสังคมแบบเรียลๆ โดยพล็อตเรื่องพยายามตีแผ่ปัญหาของวงการสาธารณสุขอเมริกาหลายอย่าง 

เรื่องย่อ : The Good Nurse (2022) ภาพยนตร์แนวระทึกขวัญสร้างจากเรื่องจริงของเหตุการณ์ผู้ป่วยตายปริศนาในโรงพยาบาลห้องไอซียู ที่พยาบาลคนหนึ่ง (เจสซิก้า เชสเทน) สงสัยว่าเพื่อนร่วมงาน (เอ็ดดี้ เรดเมย์น) อาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตอย่างลึกลับของผู้ป่วยหลายคน

เรื่องจริงของ ชาร์ลส์ คัลเลน (Charles Cullen) ฆาตกรต่อเนื่องชาวอเมริกันที่สารภาพว่าสังหารผู้ป่วยมากถึงสี่สิบคนในช่วงอาชีพสิบหกปีของเขาในฐานะพยาบาลในรัฐนิวเจอร์ซีย์  จนได้รับฉายาจากสื่อว่า เทพบุตรแห่งความตาย (Angel of Death) ชายที่อาจจะฆ่าคนไปถึง 400 ราย ซึ่งก่อนดูก็ชวนให้คิดว่าจะทำเป็นเรื่องราวชีวประวัติของชาร์ล แต่กลายเป็นว่าเรื่องกลับยกมาแค่ส่วนเสี้ยวช่วงท้ายก่อนโดนจับได้ แล้วก็เล่าเรื่องผ่านมุมมองของพยาบาลเพื่อนสาวที่สนิทกับเขา ซึ่งหนังเรื่องนี้ทำจากหนังสือขายดีอีกที แต่ว่าเรื่องจริงเป็นยังไงก็ไม่อาจจะแน่ใจได้ เพราะข้อมูลที่ได้จากเรื่องนี้ก็ไม่ตรงกับเรื่องจริงที่เกิดขึ้น

เนื้อเรื่องจงใจเล่าแค่ช่วงท้ายก่อนโดนจับของชาร์ล แล้วสร้างเรื่องราวมิตรภาพของเขาที่เกิดกับเอมี่ โดยพยายามทำให้เข้าใจว่าชาร์ลป่วยทางจิตแบบพยายามซ่อนไว้ จากปัญหาชีวิตที่ไร้ความสุขของเขา แล้วก็ทำให้เอมี่เป็นคนที่เข้าถึงและเข้าใจเขาจริงๆ จนนำไปสู่การจับกุมตัวพร้อมคำสารภาพได้สำเร็จ ซึ่งเรื่องจะเน้นที่ฉากการพูดคุยของสองคนนี้เป็นไคลแม็กซ์สุดท้ายของเรื่องที่มีแต่บทสนทนาเนิบๆ ก็จริง แต่ก็ดูสมจริงจนน่าเชื่อถือมากว่าการทำให้ฆาตกรต่อเนื่องที่ป่วยทางจิตสารภาพได้นี่ต้องใช้ความเข้าใจแค่ไหน ซึ่งตัวเรื่องทำได้ดีไม่มีที่ติจากบทการแสดงพลังดาราออสการ์ของทั้งคู่ที่เล่นส่งต่อเคมีอารมณ์ทุกอย่างได้ตามที่เรื่องวางไว้