รีวิว Against the Ice (2022) มหันตภัยเยือกแข็ง

 ภาพยนตร์ดราม่าผจญภัยหนังใหม่อีกเรื่องที่น่าสนใจอย่างมาก Against the Ice (2022) มหันตภัยเยือกแข็ง หนังเอาชีวิตรอดอิงประวัติศาสตร์ สร้างจากเรื่องจริงในการเดินทางสำรวจขั้วโลกเหนือ หรือกรีนแลนด์ของชาวเดนมาร์กปี 1909 ช่วงระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 ในหนังสือของไอนาร์ มิกเกลเซ่น โดยเป็นเรื่องของชายชาวเดนมาร์กสองคนที่ต้องเผชิญหน้ากับภารกิจครั้งสำคัญเพื่อเปิดเผยความจริงของดินแดนใหม่ที่ไม่เคยมีใครสำรวจร่วมกับสุนัขลากเลื่อน ก่อนจะพบกับมหันตภัยร้ายที่อาจทำให้พวกเขาเอาชีวิตไม่รอด ภาพยนตร์ได้รับเลือกให้เข้าฉายใน เทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลินครั้งที่ 72 เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา นำแสดงโดยนักแสดงมากฝีมืออย่าง นิโคไล คอสเตอร์-วัลดาอู จาก Game of Thrones และ โจ โคล จาก Peaky Blinders ข่าวสารภาพยนตร์ รีวิวหนังดัง

สร้างจากเรื่องจริงของการเดินทางในคืนก่อนวันคริสต์มาส ปี 1909 เมื่อคนสำคัญของทีมสำรวจเดนมาร์กเกิดได้รับบาดเจ็บ บังคับให้ทีมสำรวจเกือบทุกคนจะต้องอยู่ดูแลในเรือ ในขณะที่สองคนที่ต่างกันสุดขั้วต้องร่วมเดินทางสู่ขั้วโลกเหนือ ทั้งกัปตันไอนาร์ มิกเกลเซ่นผู้มีความหลังฝังใจ และไม่แยแสใคร กับ อีวาร์ เอเวอร์เซน หนุ่มนายช่างที่ดูไม่เอาไหนที่ทำให้พวกเขาได้เจอกับอันตรายที่นอกจากคนจะวุ่นวาย สุนัขเองก็ต้องเสี่ยงภัยไม่แพ้กัน พวกเขาจึงต้องเรียนรู้ความแตกต่างของกันและกันและต้องหาทางเอาชีวิตรอด เพื่อค้นหาความจริงที่หลงเหลืออยู่ในกรีนแลนด์ ณ ที่ที่นักสำรวจกลุ่มก่อนที่เดินทางไปแล้วไม่ได้กลับมาอีกเลย ความลับของแผนที่ หลักฐานสำคัญที่จะเปิดเผยความจริงของยุโรป ดินแดนที่พวกเขาต้องรักษา ภายใต้ความเยือกเย็นของภูเขา หิมะ ความเคลืองแคลง และมหันตภัยที่ทั้งคู่อาจจะไม่ได้มีชีวิตรอดกลับไปยังแผ่นดินใหญ่อีก

หนังเป็นการสะท้อนมุมมองของผู้ชายในการเดินทาง ทั้งคนที่แข็งแกร่งและคนทีอ่อนแอผ่านความรู้สึกแบบไร้กรอบใด ๆ ทั้งความหลงใหลในสตรีเพศในยามโดดเดี่ยว ความรู้สึกที่ต้องอดกลั้นและอดทนเพราะความเป็นลูกผู้ชายที่ถูกปลูกฝังมาจากครอบครัวที่มีผู้ชายเป็นผู้นำ ความฝันในการออกสำรวจของคนสมัยก่อนที่มักจะเจอเรื่องให้เอาชีวิตไม่รอด เพราะชีวิตจริงไม่ได้สวยงามแบบตำรา ความเพ้อฝันของคนที่หมดสิ้นซึ่งความหวังจนต้องสร้างภาพในจินตนาการหลอนขึ้นมา สังคมของผู้ชายที่ต้องการแต่คนที่มีแต่ความเป็นผู้นำและกล้าหาญ แต่เมื่อต้องเอาชีวิตรอด กลับไม่สนใจสิ่งนั้นแล้ว ในขณะเดียวกันหนังยังแอบมีการเมืองแทรกเล็กน้อย ในเรื่องการปฏิบัติงานของผู้นำที่แทบไม่สนใจใยดีคณะทีมสำรวจ เพราะกำลังตกอยู่ในสภาวะเศรษฐกิจย่ำแย่ แต่ก็ยังพยายามสร้างภาพให้ประเทศตัวเองดูดี และพร้อมจะฉกฉวยโอกาสเอาหน้าแบบเนียน ๆ เมื่อมีผลงานของคนในประเทศตัวเอง แซะประเทศอเมริกาที่ชอบเหมาเอาทุกอย่างเป็นของตัวเอง เช่น ดินแดนกรีนแลนด์ ในแถบขั้วโลกเหนือที่ตอนนั้นยังไม่เคยมีใครสำรวจสำเร็จ และนั่นอาจเป็นสิ่งที่น่าสนใจที่หนังพยายามเสนอในแง่มุมประวัติศาสตร์สงครามโลกครั้งที่ 1 ในปี 1909

Comments

Popular posts from this blog

รีวิว The Big 4 (2022)

รีวิว 6/45 Lucky Lotto (2022)

รีวิว Gangubai Kathiawadi (2022) หญิงแกร่งแห่งมุมไบ